พังผืดในโพรงมดลูกมีความรุนแรงแตกต่างกันไป ตั้งแต่เป็นพังผืดบางๆ (filmy adhesions) ไปจนถึงมีพังผืดหนา (dense adhesions) ปิดทั้งโพรงมดลูก (complete uterine cavity occlusion) พังผืดในโพรงมดลูกทำให้เกิดปัญหา ได้แก่ ภาวะมีบุตรยาก (infertility) การแท้งซ้ำ (recurrent miscarriage) ระดูปริมาณน้อยกว่าปกติ (hypomenorrhea) หรือ ขาดระดู (amenorrhea) สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง พังผืดในโพรงมดลูกมีสาเหตุจากการทำลายของเยื่อบุโพรงมดลูก (endometrial damage) ทำให้มีการติดกันของผนังโพรงมดลูก ซึ่งมักจะเกิดในคนไข้ที่มีปัจจัยเสี่ยงได้แก่ 1. การทำหัตถการในโพรงมดลูก (intrauterine procedures) เช่น การขูดมดลูก (uterine curettage) การผ่าตัดส่องกล้องเอาเนื้องอกในโพรงมดลูกออก (hysteroscopic myomectomy) การผ่าตัดส่องกล้องเอาแผ่นกั้นในโพรงมดลูกออก (hysteroscopic resection of uterine septum) 2. การผ่าตัดเนื้องอกมดลูกทางหน้าท้อง (abdominal myomectomy) 3. การแท้งค้าง (missed abortion) การแท้งไม่ครบ (incomplete abortion) เศษรกค้าง (retained placenta) 4. การอักเสบหรือการติดเชื้อที่เยื่อบุโพรงมดลูก (endometritis) การตรวจวินิจฉัย 1.
พังผืด อาการพังผืดในมดลูกเป็นอย่างไร โดย โจ้ why-focus - YouTube
อาการ พังผืด ที่ มดลูก - YouTube
โดยการซักประวัติว่ามีปัญหาหรือปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวไว้หรือไม่ 2. การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ultrasonography) พบเยื่อบุโพรงมดลูกบาง (thin ehdometrium) ในช่วงที่มีการตกไข่ (ovulation) 3. การฉีดสารทึบรังสีเอ็กซเรย์ดูโพรงมดลูก (hysterosalpingography) พบรูปร่างในโพรงมดลูกผิดปกติ 4.
การผ่าตัดมดลูกผ่านหน้าท้องแบบปกติ (Abdominal Hysterectomy) การผ่าตัดมดลูกผ่านหน้าท้องแบบปกติจะกระทำก็ต่อเมื่อจำเป็นเท่านั้น เนื่องจากต้องเปิดแผลกว้างถึง 15 เซนติเมตร แม้จะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยแต่ก็ต้องอาศัยเวลาในการพักฟื้นนาน และมีโอกาสเกิดแผลเป็นสูง ดังนั้น ในโรงพยาบาลที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและสภาวะของผู้ป่วยเอื้ออำนวย การผ่าตัดมดลูกโดยวิธีการอื่นๆ จะเป็นที่นิยมมากกว่า หลังผ่าตัดมดลูกแล้วจะเกิดภาวะวัยทองและต้องรับประทานฮอร์โมนหรือไม่?