ใช้สำหรับใส่ผัก, ผลไม้ อาหารสดต่างๆ สามารถนำเข้าตู้เย็นและช่องแช่แข็งได้ (Frozen) Food Grade มีความปลอดภัยสูง สามารถใส่อาหารได้ปลอดภัย 100% หยิบง่าย ใช้สะดวก ตัวกล่องถูกออกแบบการบรรจุมาเพื่อดึงง่าย ใช้สะดวก สามารถดึงหยิบใช้แบบกระดาษทิชชู่ ถุงสามารถแช่ช่องฟรีสได้ เอ็ม แบ็ค มีคุณสมบัติทนอุณหภูมิเย็นได้ -30 องศา ทนความร้อนได้ 100 องศา
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เพจความจริง และ ผักมีมากมายหลายชนิด ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น แม่บ้านส่วนใหญ่จึงนิยมซื้อผักไปแช่ไว้ในตู้เย็นครั้งละเยอะๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องออกตลาดบ่อยๆ แต่เมื่อแช่ผักไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานานๆ ก็มักจะเจอกับปัญหาผักเหี่ยวเฉา เป็นสีคล้ำๆ จนดูไม่น่าทานเอาซะเลย แต่เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ง่ายๆ โดยวิธีการดังนี้ ก่อนจะเก็บผักต้องรู้เรื่องนี้ก่อน 1. ไม่ควรเก็บผักไว้รวมกัน จะทำให้เกิดการเน่าเสีย และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น 2. การเก็บผักด้วยวิธีแช่น้ำ ไม่ควรแช่ผักลงในน้ำทั้งตัน เพราะจะทำให้วิตามินละลายน้ำเสียไป 3. การเก็บผักเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้ในครัวและเก็บในตู้เย็นนั้น ควรล้างผักให้สะอาดก่อนเพราะผักที่ซื้อจากตลาดขายปลีกมักไม่สะอาด หากยังไม่ได้ใช้ทันทีให้ล้างทั้งต้นด้วยน้ำสะอาด แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำจริงๆ จึงเอาเข้าเก็บ กลเม็ดเคล็ด(ไม่)ลับ เก็บผักให้นานกว่าเดิม 1. กลุ่มผักเน่าเสียง่าย เช่น เห็ด ผักชี ผักกาดหอม ถั่วงอก ถั่วฝักยาว ผักบุ้ง ชะอม ผักเหล่านี้มักเหี่ยวง่ายและเหลืองอย่างรวดเร็ว แม้จะเก็บอยู่ในตู้เย็นก็ไม่ช่วยยืดอายุมากนัก ทางที่ดีที่สุดคือ บรรจุผักในถุงพลาสติกแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น โดยถุงพลาสติกจะต้องสะอาดและแห้ง จะช่วยให้เก็บผักได้นานขึ้น 5-7 วัน 2.
เชื่อว่าเด็กหอหลายๆ คนกำลังประสบปัญหาเเละเป็นกังวลกับการตุนอาหาร จะเก็บรักษาอาหารอย่างไรให้อยู่ได้นาน เพราะหอฉันนั้นไม่มีตู้เย็น!! ก็เป็นอันเข้าใจกันค่ะว่า ยิ่งในช่วงวิกฤตโรคระบาดอย่างโควิด - 19 นี้ หลายๆ คนก็อยากที่จะซื้ออาหาร เเละทำอาหารเก็บตุนไว้ทานเองบ้าง เเต่เพราะไม่มีตู้เย็น ชาวเด็กหอเลยไม่กล้าที่จะซื้ออะไรมาตุนได้เลย หรือเเม้จะทำอาหารก็เช่นกัน ได้เเต่ซื้ออาหารเเช่เเข็งทานเป็นมื้อๆ ไป วันนี้ Esto+ ได้รวบรวมเเละพร้อมจะเเจกเคล็ดลับ "ตุนอาหารอย่างไร โดยไม่ง้อตู้เย็น" มาฝากชาวเด็กหอทุกคนกันค่ะ สิ่งเเรกที่ชาวเด็กหอทุกคนต้องรู้ก่อนเลยคือ "ชนิดอาหาร" เเบบไหนบ้างที่ไม่เน่าเสีย โดยไม่ต้องเก็บรักษาในตู้เย็น ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกัน 9 ชนิด 1. เครื่องเทศเเละเครื่องปรุงรส เช่น กระเทียม, พริก, ซอสปรุงรสต่างๆ รวมไปซอสน้ำจิ่มต่างๆ ด้วย 2. น้ำผึ้ง หากนำไปเก็บรักษาในตู้เย็นจะทำให้จับตัวเป็นก้อน เพียงเก็บไว้ในที่ลับเเสงก็เพียงพอเเล้ว 3. น้ำมันสำหรับผัดเเละทอด 4. ผลไม้เเปรรูป เช่น ผลไม้อบเเห้ง, ถั่ว, ธัญพืช, เเยมรสต่างๆ 5. น้ำสลัดบางชนิด ที่ไม่มีส่วนผสมของโยเกิร์ต 6. ขนมปัง หากเก็บไว้ในตู้เย็นจะทำให้เเข็งตัว เเละเสียรสชาติความอร่อย 7.
เพียงทำตามเคล็ดลับที่เเนะนำไป บวกกับมีหม้อไฟฟ้าไว้สักเครื่อง ก็อยู่รอดสบายๆ อุ่นใจเหมือนอยู่บ้านกันเเล้ว! เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?
แบ่งใส่ถุงให้หยิบใช้ง่าย การแบ่งเนื้อสัตว์ใส่ถุงเข้าแช่เย็นนั้นควรจัดให้อยู่ในรูปแผ่นแบน ๆ ไม่จุกรวมกันเป็นก้อน เพื่อให้ความเย็นเข้าไปถึงได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งยังสามารถจัดวางได้อย่างเป็นระเบียบและหยิบใช้ได้สะดวก ที่สำคัญยังทำให้ละลายน้ำแข็งได้ง่ายขึ้นเมื่อต้องการนำออกมาปรุงอาหาร สำหรับเนื้อสัตว์บดหรือเนื้อที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เรียบร้อยแล้ว สามารถใช้การกดให้เป็นแผ่นแบนได้ตามปกติ ส่วนเนื้อสัตว์ที่เป็นชิ้นอย่างอกไก่หรือเนื้อสเต็กนั้นควรแร่ให้เป็นชิ้นตามขนาดที่เหมาะสำหรับการปรุงก่อนนำไปใส่ถุงพลาสติกเพื่อแช่แข็ง และสามารถเขียนประเภทของเนื้อสัตว์และวันที่ที่นำเข้าตู้กำกับไว้ได้ 2. แบ่งเนื้อสัตว์ออกเป็นช่องก่อนแช่แข็ง บางครั้งการเก็บเนื้อสัตว์บดโดยแยกถุงก็อาจทำให้เปลืองถุงพลาสติกและเพิ่มขยะมากขึ้น แต่อีกวิธีที่ทำได้เหมือนกันก็คือการเลือกถุงที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิด โดยหลังจากนำเนื้อสัตว์ใส่ถุงและรีดเป็นแผ่นแบนแล้ว ให้ใช้ตะเกียบหรือปลายช้อนค่อย ๆ กรีดเป็นเส้นเพื่อแบ่งช่องให้เนื้อขาดออกจากกัน พอนำไปแช่แข็งเนื้อสัตว์จะเกาะตัวกัน ทำให้หยิบออกมาใช้เป็นชิ้นได้อย่างง่าย ๆ ไม่ต้องนำออกมาละลายทั้งหมดให้เปลืองเวลารวมทั้งอาจทำให้เนื้อส่วนอื่น ๆ เสียได้ง่ายขึ้นด้วย 3.