เกษตรกรผู้เลี้ยงจระเข้รายใหญ่ใน จ. ตรังที่มีจระเข้กว่า 450 ตัว ตัดสินใจเปิดฟาร์มขายจระเข้ยกตัว หลังคู่สัญญารายใหญ่ชะลอการรับซื้อ เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด วันที่ 18 มี. ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ฟาร์มเลี้ยงจระเข้รายใหญ่ หมู่6 ต. บ้านโพธิ์ อ. เมือง จ. ตรัง ซึ่งเป็นของ นายสมมาตร ศรีสุข อายุ 55 ปี ใช้พื้นที่สวนยางพาราเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ทำบ่อเลี้ยงจระเข้น้ำจืดจำนวน 450 ตัว เพื่อส่งขายให้กับบริษัทผู้ขายลูกจระเข้และรับซื้อคืนรายใหญ่ใน จ.
Dark Age (1988) พบว่าจระเข้น้ำเค็มตัวนี้ออกอาละวาดไล่กัดกินชาวบ้านริมน้ำ แต่ปัญหาที่ สตีฟ แฮร์ริส และทีมงานต้องเผชิญคือการต่อต้านจากชนเผ่าพื้นเมืองของออสเตรเลียที่มีความเชื่อว่าจระเข้เป็นดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ เขาต้องหาวิธีประนีประนอมกับชาวพื้นเมืองและหาทางกำจัดจระเข้น้ำเค็มยักษ์นี้ให้ได้ ซึ่งแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเก่า แต่ก็มีความเก๋าและคลาสสิก ทำให้กวาดคะแนนและคำชื่นชมไปได้อย่างท่วมท้น น่าจะการันตีถึงความเหี้ยมโหดและสนุกสนานได้ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ 3.
พวก เจ้าจักนำพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้มีอารมณ์ไม่มีที่ สุด ไม่มีร่องรอยไปด้วยร่องรอยอะไร? ตัณหามี ข่ายซ่านไปตามอารมณ์ต่าง ๆ ไม่มีแก่พระพุทธเจ้า พระองค์ใด เพื่อนำไปในภพไหน ๆ, พวกเจ้าจักนำ พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีอารมณ์ไม่มีที่สุด ไม่มี ร่องรอยไป ด้วยร่องรอยอะไร? " แก้อรรถ บรรดาบทเหล่านั้น บาทพระคาถาว่า ยสฺส ชิตํ นาวชิยติ ความว่า กิเลสชาตมีราคะเป็นต้น อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดทรงชนะแล้ว ด้วยมรรคนั้น ๆ อันพระองค์ ย่อมไม่กลับแพ้ คือชื่อว่าชนะแล้วไม่ดี หามิได้ เพราะไม่กลับฟุ้งขึ้นอีก. บทว่า โนยาติ ตัดเป็น น อุยฺยาติ แปลว่า ย่อมไม่ไปตาม. อธิบายว่า บรรดากิเลสมีราคะเป็นต้น แม้กิเลสอย่างหนึ่งไร ๆ ในโลก ชื่อว่ากลับไปข้างหลังไม่มี คือไม่มีความกิเลสชาตที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ใดทรงชนะแล้ว. (กิเลสเหล่าอื่น ติดตามกิเลสที่ทรงชนะแล้วเนื่องกันเป็นสาย ๆ ไม่มี. ) บทว่า อนนฺคโคจรํ ความว่า ผู้มีอารมณ์ไม่มีที่สุด ด้วยสามารถ แห่งพระสัพพัญญุตญาณ มีอารมณ์หาที่สุดมิได้. สองบทว่า เกน ปเทน เป็นต้น ความว่า บรรดารอยมีรอย คือ ราคะเป็นต้น แม้รอยหนึ่ง ไม่มีแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใด, พวก เจ้าจักนำพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นไป ด้วยร่องรอยอะไร คือ ก็ แม้ร่องรอยสักอย่างหนึ่ง ไม่มีแก่พระพุทธเจ้า, พวกเจ้าจักนำพระพุทธเจ้า นั้น ผู้ไม่มีร่องรอยไป ด้วยร่องรอยอะไร?
(เราจักมีความพอใจในเมถุนอย่างไรได้? ) เราย่อมไม่ปรารถนาเพื่อจะแตะต้องสรีระธิดาของท่าน นั้น แม้ด้วยเท้า. " ในเวลาจบเทศนา เมียผัวทั้งสองตั้งอยู่แล้วในอนาคามิผล ดังนี้แล. เรื่องมารธิดา จบ. ดูเพิ่ม [ แก้ไข] ธรรมบท พุทธวรรค
วินิจฉัยในคาถาที่สอง. ขึ้นชื่อว่าตัณหานั่น ชื่อว่า ชาลินี เพราะ วิเคราะห์ว่า มีข่ายบ้าง มีปกติทำซึ่งข่ายบ้าง เปรียบด้วยข่ายบ้าง เพราะ อรรถว่า รวบรัดตรึงตราผูกมัดไว้, ชื่อว่า วิสตฺติกา เพราะเป็นธรรม- ชาติมักซ่านไปในอารมณ์ทั้งหลาย มีรูปเป็นต้น เพราะเปรียบด้วยอาหาร อันมีพิษ เพราะเปรียบด้วยดอกไม้มีพิษ เพราะเปรียบด้วยผลไม้มีพิษ เพราะเปรียบด้วยเครื่องบริโภคมีพิษ. อธิบายว่า ตัณหาเห็นปานนั้น ไม่มีแก่พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เพื่อนำไปในภพไหน ๆ. พวกเจ้าจักนำ พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้ไม่มีร่องรอยไปด้วยร่องรอยอะไร? ในกาลจบเทศนา ธัมมาภิสมัยได้มีแก่เทวดาเป็นอันมาก. แม้ธิดา มารก็อันตรธานไปในที่นั้นนั่นแล. พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ตรัสว่า " มาคัน- ทิยะ ในกาลก่อน เราได้เห็นธิดามารทั้งสามเหล่านี้ผู้ประกอบด้วยอัตภาพ เช่นกับแท่งทอง ไม่แปดเปื้อนด้วยของโสโครก มีเสมหะเป็นต้น. แม้ ในกาลนั้น เราไม่ได้มีความพอใจในเมถุนเลย. ก็สรีระแห่งธิดาของ ท่านเต็มไปด้วยซากศพ คืออาการ ๓๒ เหมือนหม้อที่ใส่ของไม่สะอาด อันตระการตา ณ ภายนอก. แม้ถ้าเท้าของเราพึงเป็นเท้าที่แปดเปื้อนด้วย ของไม่สะอาดไซร้. และธิดาของท่านนี้พึงยืนอยู่ที่ธรณีประตู; ถึงอย่างนั้น เราก็ไม่พึงถูกต้องสรีระของนางด้วยเท้า " ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า:- " แม้ความพอใจในเมถุน ไม่ได้มีแล้ว เพราะ เห็น นางตัณหา นางอรดี และนางราคา, เพราะ เห็นสรีระ แห่งธิดาของท่านนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยมูตร และกรีส.